หน้าเว็บ

หน้าเว็บ

พระปรีชาสามารถด้านศิลปกรรม

พระปรีชาสามารถด้านศิลปกรรม
          ประติมากรรมฝีพระหัตถ์ ศิลปกรรมสาขาประติมากรรมเป็นศิลปะสาขาหนึ่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความสนพระราชหฤทัยยิ่ง พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าเทคนิควิธีการต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ทั้งการปั้น การหล่อ และการทำแม่พิมพ์ โดยมีนายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ข้าราชการบำนาญกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นผู้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทในงานด้านประติมากรรมนี้
งานประติมากรรมฝีพระหัตถ์ที่เป็นประติมากรรมลอยตัว (Round Relief) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ 
•  รูปปั้นผู้หญิงเปลือยคุกเข่า ความสูง 9 นิ้ว ทรงปั้นด้วยดินน้ำมัน 
•  พระรูปปั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครึ่งพระองค์ ความสูง 12 นิ้ว ทรงปั้นด้วยดินน้ำมัน นอกจากงานประติมากรรมดังที่กล่าวมาแล้วนี้พระองค์ท่านยังทรงสนพระราชหฤทัยในการสร้างพระพุทธรูป ซึ่งพระพุทธรูปองค์แรกที่ทรงให้สร้างคือ พระพุทธรูปปางประทานพร ภ.ป.ร. ซึ่งสร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยมีพระราชประสงค์ให้แก้ไขพุทธลักษณะจากการสร้างครั้งที่ 1 ของวัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากพระองค์ไม่ทรงพอพระราชหฤทัยในพระพุทธลักษณะที่เป็นแบบเดิม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ เป็นผู้ปั้น และมอบหมายให้นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบ
            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีแนวพระราชดำริว่า พระพุทธรูปปางประทานพร ภ.ป.ร. ควรมีลักษณะสง่างาม เข้มแข็ง แต่ไม่แข็งกระด้าง และให้มีความรู้สึกที่ว่าเป็นที่พึ่งเหล่าพสกนิกรเพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ จึงได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบพระพุทธรูป โดยส่วนฐานของพระพุทธรูปจะเป็นกลีบบัว ใต้กลีบบัวเป็นขาสิงห์ ที่ผ้าทิพย์ประดิษฐานอักษรพระปรมาภิไธยย่อว่า ภ.ป.ร. และที่ฐานรองพุทธบัลลังก์มีอักษรบาลีจารึกว่า ทยยชาติยา สามคคิย์ สติสญชนเนนโภชิสิย รกขนุติ และบรรทัดถัดมาเป็นอักษรไทยจารึกว่า คนไทยจะรักษาความเป็นไทย อยู่ได้ด้วยมีสติสำนึกในความสามัคคี ฐานด้านหลังจารึกว่า เสด็จพระราชดำเนินในพิธีหล่อ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2508
           พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่พระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้สร้างคือ พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระพุทธรูปปฎิมาแบบพิเศษ ปางมารวิชัยโดยให้แกะแบบแม่พิมพ์ด้วยหินลับมีดแล้วหล่อเป็นปูนปลาสเตอร์ ต่อมาภายหลังได้ทำแม่พิมพ์ด้วยขี้ผึ้งและทรงบรรจุผงศักดิ์สิทธิ์จาก
ปูชนียสถานต่างๆ ทั่วประเทศภายในพระพิมพ์ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้บรรจุพระพิมพิ์ขนาด 2 x3 เซนติเมตร ไว้ที่ฐานบัวหงายด้านหน้าขององค์พระพุทธนวราชบพิตร พร้อมทั้งทรงพระราชทานแก่ข้าราชการ ข้าราชบริพารและบุคคลต่างๆ เพื่อไว้สักกะบูชาโดยให้ผู้รับพระราชทานนำไปปิดทองที่ด้านหลังองค์พระพิมพ์ และให้พระบรมราโชวาทโดยสรุปว่า ให้ทำดีเหมือนกับการปิดทองหลังองค์พระพิมพ์ โดยเรียกว่า พระสมเด็จจิตรลดา หรือ พระกำลังแผ่นดิน
หัตถกรรมฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระองค์ท่านทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เองเช่น เครื่องร่อนและเรือรบจำลอง เป็นต้น พระองค์ท่านทรงโปรดกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่งและประกอบกับพระองค์ท่านทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างจึงโปรดที่จะต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง เรือใบฝีพระหัตถ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงต่อมีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่
    •  เรือใบประเภทเอ็นเตอร์ไพรส์ (International Enterprise Class) ซึ่งเป็นเรือใบลำแรกที่ทรงต่อเอง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2507 และพระราชทานชื่อเรือว่า เรือปะแตน และลำต่อๆ มามีชื่อว่า เรือเอจี ” 
    •  เรือใบประเภทโอ.เค (International O.K. Class) เป็นเรือใบที่พระบาทสมเด็นพระเจ้าอยู่หัวทรงต่อเมื่อ พ.ศ. 2508 และพระราชทานชื่อเรือว่า เรือวฤกษ์ ลำดับต่อๆ มามีชื่อว่าเรือเวคา1 , เรือเวคา 2 และเรือเวคา 3 เป็นต้น 
       •  เรือใบประเภทม็อธ (International Moth Class) เรือประเภทนี้เป็นเรือที่กำหนดความยาวตัวเรือไม่เกิน 11 ฟุต เนื้อที่ใบไม่เกิน 35 ตารางฟุต เรือม็อธที่ทรงออกแบบและทรงต่อด้วยพระองค์เองในระหว่าง พ.ศ. 2509-2510 มีด้วยกัน 3 แบบ คือ 
    •  เรือใบมด ขนาดเรือยาว 11 ฟุต กว้าง 4 ฟุต 7 นิ้ว เสาเดี่ยว เนื้อที่ใบ 72 ตารางฟุต คุณสมบัติคือ มีราคาถูก เบา แล่นได้เร็ว เก็บรักษาได้ง่าย 
    •  เรือใบซุปเปอร์มด เป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเรือมด คือมีขนาดยาว 11 ฟุต เท่าเรือมด แต่กว้าง 4 ฟุต 11 นิ้ว ซึ่งมีความเร็วมากขึ้น สู้คลื่นลมได้ดีและมีความปลอดภัยสูง เป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้แข่งขันกีฬาเรือใบทุกครั้งที่มีการแข่งขันในประเทศไทย 
    •  เรือใบไมโครมด เป็นเรือใบที่ทรงออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่าเรือใบมด คือมีความยาว 7 ฟุต 9 นิ้ว กว้าง 3 ฟุต 4 นิ้ว เป็นเรือที่เหมาะสำหรับคนร่างเล็กหรือเด็ก มีวิธีการสร้างที่ง่าย สะดวก และประหยัด

        เรือใบลำสุดท้ายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกแบบและต่อด้วยพระองค์เองคือ เรือโมก ” (Moke) ซึ่งเป็นเรือที่ทรงทดลองสร้างโดยทรงออกแบบผสมผสานระหว่างเรือ โอ.เค. และเรือซุปเปอร์มด คือ ออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าเรือซุปเปอร์มด และให้มีขนาดใกล้เคียงกับเรือโอ.เค. แต่ใช้อุปกรณ์เสาและใบเรือของเรือ โอ.เค.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น